เพิ่งรู้ว่าเราเขียนสรุปปี 2021 แล้วลืม Publish 🤣 ได้เปรียบเทียบว่า ปีนี้ออกจากบ้านมากขึ้นแล้วนะ และได้เจอคนใหม่ๆ บ้างเล็กน้อยพอกรุบกริบ ไปเที่ยวบ่อยมากเหมือน 1-2 เดือนครั้ง ชีวิตมีประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ได้ลอง พอกรุบกริบ
ชีวิตหลังอายุ 30 เริ่มวนๆ ซ้ำๆ เรื่องเซอร์ไพรส์เกิดได้ยาก เจอคนใหม่ๆ คนแปลกหน้าในชีวิตลดลง อาจจะไม่ตื่นเต้นซู่ซ่า แต่ก็เลยมีตัวแปรที่ทำให้ทุกข์ลดลงไปด้วย เราไม่ค่อยเอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่เราลำบากกายใจเท่าไหร่ แต่ในขณะเดียวกันชีวิตก็อาจจะน่าเบื่อพอสมควร แต่ก็ดำเนินไปแบบเรื่อยๆ ไม่ติดขัดแต่ก็ไม่หวือหวา ได้มองดูเห็น cycle เทรนด์หรือไฮป์ต่างๆ เกิดแล้วดับไปก่อนที่เราจะสละเวลาไปร่วมขบวนหรือ สนใจจริงจัง บางเรื่องเรายังไม่ทันจะเข้าใจมันก็ดูล่มหรือเลิกราวงแตกไปแล้วอย่างรวดเร็ว
ปีนี้ได้ลองทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำ ขอสรุปเก็บไว้รวมๆ ดังนี้
Myself, Friends & Family
- ลองหานักจิตวิทยาครั้งแรก เพื่อลองเช็คอัพสภาพจิตใจ ตอนแรกคิดว่าไม่รู้จะพูดอะไร พอได้คุยกับคนที่ไม่รู้จักเราเลย เขาก็ถาม ให้เราได้สะท้อนจากมุมเขา ให้โจทย์ได้ลองคุยกับตัวเอง ตั้งคำถาม ตอบคำถามเพื่อคลี่คลาย ได้เห็นว่าตัวเราแคร์อะไรบ้างในชีวิต รู้สึกว่าได้ใช้เวลาทบทวนชีวิตดีแฮะ สรุปไว้ที่หน้านี้
- ช่วงเดือนก.ค. ไปเที่ยวกับครอบครัวและแม่ ครั้งแรกในรอบหลายปี ช่วงก่อนหน้านี้ ยายป่วยหนักแล้วบ้านเราไม่ได้ไปเที่ยวเลย หลังจากยายตายปี 2016 ชีวิตเราก็เข้าสู่โหมดเริ่มทำงาน คนชวนทำนู่นนั่นนี่ไปเรื่อย คนในครอบครัวก็ต่างคนก็ต่างใช้ชีวิต เรามีเพื่อนเรา แม่มีเพื่อนแม่ พ่อมีเพื่อนพ่อ น้องมีเพื่อนน้อง ฯลฯ บ้านเราคือทุกคนมีชีวิตส่วนตัวและความสนใจต่างกัน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกห่างเหินอะไร พอมีวาระต้องไปเที่ยวด้วยกันหลายวันลุ้นๆ ว่าจะรอดไหม สรุปว่าทุกอย่างราบรื่นดีมาก พบว่าเราหงุดหงิดน้อยลงจากเมื่อก่อน เวลาคนอื่นช้า 555 และจะพยายามหาโอกาสไปด้วยกันอีก
- เพื่อนสนิทหลายคนย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ก็เลยพบปะและคุยกันน้อยลงไปโดยปริยาย ได้เห็นทุกคนผจญภัยและเติบโตในแบบตัวเองพึงใจ เปลี่ยนกระถางกันไป สดชื่น ห่อเหี่ยว เรื่อยเปื่อย บางคนเหมือนเป็นปลาน้ำใหม่ พลิกผันชีวิตกลับไปเป็นวัยรุ่นใหม่ รู้สึกสดชื่นซาบซ่าแทน ตัวเรายังอยู่ในจุดที่เรื่อยๆ สบายๆ เริ่มคิดละว่าหรือเราต้องไปบ้าง 🤣 และปีหน้าจะมีเพื่อนกลับมาเยี่ยมบ้าง พร้อมต้อนรับ และมีแพลนจะไปเยี่ยมเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ
- เพื่อนหลายๆ คนก็ห่างหายจากชีวิตไป ไม่ได้ catch up ต่างคนต่างมีชีวิตที่หลากหลาย ซึ่งเราไม่ได้โศกเศร้าอะไรมาก แต่ละคนก็มี Pursuit ในชีวิต ความสนใจ กิจกรรมต่างกันไป ถ้าเวลาเหมาะสม เราคงได้วนเวียนมาเจอกันใหม่ แต่ละวันก็มีอะไรให้ทำตลอด ความเหงาคืออะไรไม่เข้าใจ ชีวิตก็มีอะไรไปเรื่อยๆ ให้ทำและสนใจ
- ยังไม่ค่อยได้กลับไปงานอีเวนท์ต่างๆ มากนักทั้งหนังสือ ดนตรี ศิลปะ ตั่งต่าง ขี้เกียจเจอคนเยอะมาก พยายามจำกัดตัวแปรในเรื่องของคนที่พบในชีวิต แต่ถ้านัดกินข้าวหรือไม่มีกิจกรรมอะไรมากก็จะไป
- เดือนพ.ย. ไปสักครั้งแรก ✨ ซึ่งร้านสักชื่อ Yark Tattoo มุ้งมิ้งมาก คิดอยู่นาน สรุปก็ได้สักเสียที อีกอย่างที่เพิ่งเคยลองในปีนี้คือทาเล็บเจลแต่น้องสลายไวมาก เพื่อนพาไป Game Center ครั้งแรกก็เป็นประสบการณ์ใหม่เช่นกัน 555
- ไปตรวจสุขภาพกาวแล้วแข็งแรงดี ค่าทุกอย่างโอเค มีข้อมูลมนแอพให้กลับมาดุเรื่อยๆ ปลายปีเลยหละหลวมพอสมควร 😂😂 ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยแล้ว เมื่อไหร่จะหมดปี


Hobby & Leisure
- ปีนี้ไปเที่ยวหลายหนมากตลอดทั้งปี ปีนี้ขอไปแค่ในประเทศเพราะง่ายดี ไม่ต้องวางแผนไรมาก ยังขี้เกียจไปเมืองนอกอยู่ ขี้เกียจวางแผน จัดการเอกสาร วีซ่า ปีนี้ออฟฟิศมีหยุดกลางปีให้ด้วยรู้สึกใช้ไม่คุ้มเลย อาจเพราะหลังโควิดด้วย โรงแรม สถานที่ต่างๆ กลับมาคึกคักอีกครั้ง คิดว่าปีหน้าจะคนทะลักทลายมากกว่านี้อีก 5555
- ช่วงต้นปี เราลองเล่นเกมออนไลน์ครั้งแรก เริ่มจากอ่านเรื่อง The Lifecycle of Software Objects โดย Ted Chiang แล้วสนุกประทับใจ เล่าการเกิดดับของซอฟท์แวร์และคอมมูนิตี้ออนไลน์ อยากเข้าใจ Metaverse ว่าแตกต่างจากเกมออนไลน์ปัจจุบันยังไงวะ เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนเลยชวนเล่นเกม เนื่องจากชีวิตนี้ไม่เคยเล่นไรเลย อยากรู้มันรู้สึกยังไงนะ ตอนแรกๆ คือ dizzy มาก มึนหัวจะอ้วกตลอดเวลา มี Motion Sickness เล่นไป 3 เกม Guild War 2 / Starve Together / World of War Craft ทดลองอยู่ประมาณ 3-4 เดือน วันนึงใช้เวลา 1-4 ชั่วโมงทีเดียว จากนั้นก็ตัดสินใจว่า this is not my place to be พอประมาณกลางปีก็เลิกไป ไม่เคยเปิดขึ้นมาอีกเลย เมื่อย รู้สึกชีวิตว่างและเป็นอิสระทันทีหลังเลิกเล่น แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจ พอจะเข้าใจคนอื่นๆ ที่เขาชอบเล่นเกมมากขึ้น เมื่อก่อนรู้สึกไม่อิน ไม่ rewarding 555
- ลองพายเรือคายัคแบบระยะไกลหลายกิโล พายรอบเกาะ พายไปกลับข้ามเกาะใกล้ๆ พายไปเรื่อยๆ โชคดีที่สภาพอากาศดี น้ำนิ่งคลื่นเล็ก แอบกินแรงเพื่อนเยอะเหมือนกัน เราก็ถ่ายรูปอะไรไปเรื่อย เพลินดี ต้องวางแผนดีๆ ให้ไม่พายตอนเที่ยงเพราะ sunburn + เมาแดดมาก คือชอบเพราะมันเรื่อยๆ สบายๆ ดี คนที่ชอบอะไร extreme ตื่นเต้นอาจจะเบื่อได้
- ลองไปยิงธนูครั้งแรก เป็นกีฬาที่ประทับใจ อาจจะไม่ได้เข้าเป้าเท่าไหร่ กากมาก แต่รู้สึกว่ามันเพลินดี รู้สึกได้ปล่อยวาง และว่างๆ อยากไปทำอีกเรื่อยๆ ปีหน้าจะพยายามไปบ่อยขึ้น ไปคนเดียวก็ได้ รู้สึกลืมทุกเรื่องไปชั่วขณะ เหมือนอยู่ใน trance ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเป้า 2D ด้วย จั๊กทำ Visualization ไว้ที่นี่
- ไปร่วมกิจกรรมส่องสัตว์ ดูนก ดูเหี้ย ได้คุยกับนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ กลับมาสนใจต้นไม้ สัตว์ที่บ้าน ปีหน้าอยากลองไปตามรอยเสือดูบ้าง ต้องรอโอกาสหน้า
- ปีนี้อ่านหนังสือน้อยมากเลย 🥲 แต่ได้ลองอ่านเรื่องที่เราไม่สนใจ คือเรื่องที่อยู่นอกเหนือตัวเรา ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ พืช สัตว์ ปีนี้ เราสนใจมนุษย์น้อยลงเล็กน้อย เริ่มสนใจหลายๆ เรื่องที่รู้สึกตอนเด็กว่าน่าเบื่อ และเริ่มรำคาญหลายสิ่งที่เมื่อก่อนก็พอรับได้ เราคงจะแก่ขึ้นจริงๆ
Work
- รู้สึกตื่นเต้นท้าทายขึ้นในงาน ได้ทำงาน Project & Issue หลากหลาย ท้าทาย ให้ไม่เบื่อ เหมือนได้เรียนรู้เรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าอยู่ในระดับ Growth ที่ไม่กดดันมาก ยังมีชีวิต work life balance ที่ดี ทุ่มครึ่งปิดคอม น้อยครั้งที่จะทำงานดึกเกิน 3-4 ทุ่ม ยกเว้นช่วงก่อนหยุดยาว
- ดีใจที่ได้ทำงานอยู่บ้านมากๆ ตัดตัวแปรในชีวิตไปได้มากมาย ดีใจที่มัน Work กับเรา เพื่อนร่วมงาน และบริษัท เวลาจะไปออฟฟิศทีเหมือนต้องคิดล่วงหน้าอยากกินอะไรแถวนั้น
- ปีนี้โดยรวม ลูกค้าน่ารัก ใจดี คุยง่าย และไม่เร่งรีบ งานไม่ได้เยอะเว่อ แต่ก็มีไรทำทุกเดือน ไม่มีงานไหนที่รู้สึกสึมเส้าเซ็งไม่อยากจะตื่นมาทำ แต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับงานไหนเป็นพิเศษ deliver ได้ตามมาตรฐานและเวลาก็พึงพอใจละ
- แม้จะไม่ใช่อาชีพหลัก ยังได้เขียนเรื่อยๆ ดีใจที่มีคนมาจ้างเรื่อยๆ แต่อาจจะเขียนไม่ไวหรือลื่นปรื้ดเหมือนตอน 20 ปลายๆ ที่แบบอะไรก็น่าสนใจไปหมด รู้สึกว่าเราชอบเขียนแค่เพราะเราชอบอ่าน การเขียนทำให้เราตั้งใจอ่าน ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักเขียนที่ดีมาก แค่เป็นสิ่งที่ชอบทำและทำได้เรื่อยๆ
Tattoo
ขอเล่าโปรเสสการสัก อ่านข่าวพบศพคนเสียชีวิต ซึ่งเขาระบุตัวตนด้วยรอยสัก ก็รู้สึกว่าเออหรือร่างกายเราควรมีสิ่งนี้ติดตัวไว้บ้างนะ กลายเป็นโจทย์ว่าเราจะสักอะไรดีที่มันอยู่ได้ระยะยาวและเราจะไม่เบื่อ ต้องบอกก่อน เดิมเราคิดอยู่นาน เรารู้ว่าา การสักมันเป็นเรื่อง long term จะอยู่บนผิวหนังเราไปอีกนาน เราจะเบื่อไหม และมันอาจจะไม่สวยงาม เลือนลาง ขอบเบลอเมื่อเวลาผ่านไป รอลุ้นว่าเวลาผ่านไปมันจะเป็นไง วันหนึ่งไปเดินผ่านร้านสักใหม่มาเปิดใกล้บ้านมาก ก็ลองไปส่องใน Google Maps เลยตัดสินใจนัดสัก
- เราคิดละว่าจะสักไรที่กลางๆ มาก จะได้ไม่เสียใจในวันข้างหน้า คิดมานานละ เครื่องหมาย [+] และ [-] ละกัน ประจุมันจะได้หักล้างกันไป กลายเป็นโมเลกุลที่เสถียร กลางมากๆ ชีวิตเราบวกบ้างลบบ้างสุดท้ายไม่ขาดทุน ซูมอินซูมเอาท์ไปเรื่อยๆ 5555 เหมือนอัพเกรดฮาร์ดแวร์เพิ่มปุ่ม เพิ่มลดเสียง
- เราก็ร่างแบบ ใน Figma คือมันธรรมดามาก เลือกขนาดอะไรไป ปรึกษาขนาดที่เหมาะสม ร้านก็จะ Match ช่างที่เหมาะสมกับลายให้
- พอทักคุยเสร็จ ตกลงราคา นัดวัน อ่านไกด์ไลน์ก่อนและหลัง เนื่องจากห้ามโดนน้ำและแดดหลังสัก เราต้องรอให้กลับจากไปทะเล เพราะจะไปพายคายัคอะไรซึ่งเสี่ยง Sunburn มาก เหมือนย้ำคิดย้ำทำ ลองวาดเส้นลงบนร่างแต่ก็ทะลักทุเล วนเวียนว่าจะสักตรงไหนดี แตกจักรวาล Pros and Cons As Usual ตามสันดานเรา
- ถึงร้าน ช่างก็ปรินท์เครื่องหมายมาให้ลองวางบนร่าง สักครั้งแรกสองจุดไปเลยให้มัน balance กัน สรุปขนาดเล็กจากที่ตั้งใจไว้ 0.5 CM จากนั้นช่างก็ลอกลายให้ และปรับตำแหน่งที่สมดุลแต่ร่างกายคนมันไม่ได้ Perfectly Symmetrical ก็เอาเท่าที่ดูแล้วไม่เบี้ยว
- เสร็จแล้วก็นอนสัก ฟังเพลงไปไม่ทันจบเพลย์ลิสต์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.เอง เจ็บน้อยกว่าไปขูดหินปูนอีก สบายๆ
- พบเสร็จ ร้านด้านความวัยรุ่นก็มีการถ่ายโพลารอยด์ให้ต่างๆ ถ่ายรูป จากนั้นก็แปะ Wrap พลาสติกบางอย่าง ห้ามแกะ 1-2 วัน จากนั้นเขาให้ Oinment วิตามินมาทา
- โดยรวมไม่เจ็บเท่าไหร่ ผ่านมา 1 สัปดาห์ยังไม่ Regret ก็รอดูต่อไปว่าจะเบื่อไหม


Casual Kayaking
เวลาเราไปเที่ยวคนเดียวก็จะเดิน นั่ง อ่านหนังสือ ลอยน้ำ ฟังเพลง ทำงานอะไรไป คือทำกิจกรรมเหมือนบ้านแค่เปลี่ยนที่ใช้ชีวิตแบบดกอม แต่ถ้าไปกับเพื่อนก็จะได้ทำกิจกรรมที่หลากหลายขึ้น คือ active ใช้ร่างกายซึ่งดีมากๆ ได้เปลี่ยนบรรยากาศ





Just living, observing, thinking, doing
ปีนี้ไม่ได้มีบทเรียนอะไรมากมาย เรียนรู้ไปตามทาง ไม่ได้ทำตื่นเต้นอะไรมาก รู้สึกว่าเราแคร์ฟรีมากขึ้น ไม่ทุรนทุราย ไม่ทุกข์ แต่ก็ไม่ได้ สุขเว่อ มีเรื่องที่ไม่เข้าใจและช่างแม่งเยอะเหมือนกัน แต่ก็ดำเนินไป ไม่มีอะไรต้องเสียดายเลย ใช้ชีวิตเรื่อยๆ มีความสุขดี อยู่กับตัวเองเยอะขึ้นมากๆ (ซึ่งปกติก็มากอยู่แล้ว แต่เท่าไหร่ก็ไม่พอ) ได้กลับมาถามตัวเองว่าเราเป็นใคร เราทำแต่ละสิ่งไปทำไม สิ่งนี้มีคุณค่ากับเราระยะยาวไหม อาจจะกลายเป็นคนที่น่าเบื่อ ซึ่งไม่เป็นไร แต่รู้สึกไม่พร่องไม่ขาดอะไรเลย
ปีหน้า จะพยายามพาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ บ้าง ปีนี้เหมือนชาร์จแบตเต็มและ ขอใช้งานร่างกาย สมอง และจิตใจให้มากกว่านี้บ้าง อยากเหนื่อยและหาทำบ้าง สบายมามากไปแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่อยากลองและอยากรู้ 🌸
เขียนยาวเท่านี้พอละ 555 เอาจริงย้อนไปดู 5 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก
หวังว่าปีหน้าชีวิตจะตื่นเต้นขึ้นสัก 25% เพราะชาร์จแบตมาเต็มละ