All posts tagged: Review

‘Second Place’ เมื่อหญิงวัยกลางคนเชิญศิลปินที่หล่อนชอบมาบ้าน หวังเขย่าโลกน่าเบื่อ กลางๆ ของหล่อน ซึ่งจะดีเหรอวะ 5555

Review

หญิงวัยกลางคนเชิญศิลปินดังมาเยี่ยมบ้านในเมืองเล็กๆ ริมทะเล โดยหวังว่าเขาจะมาคลี่คลายไขปมชีวิตเบื้องลึกของเธอได้ 5555 เออ อะไรวะ สุดท้ายอ่านจบอย่างไว

Exhalation: Stories นิยายเรื่องสั้นไซไฟที่มีจิตใจ ใกล้ชิดสัมผัสความเป็นมนุษย์ ชวนคิดถึงความเป็นไปได้อันเกิดจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ✨

Review

ความประทับใจคือ Ted Chiang เขียนไซไฟที่สุดแสนจะ Humanistic และ Intimate มากๆ ชวนมองเทคโนโลยี เวลา อวกาศในสเกลระดับที่มากระทบบุคคล ความสัมพันธ์ แทรกความสงสับ ความรู้สึกกลัวตาย หรือความรู้สึกผิด นิยายของเขา ก้าวผ่านตีมโลกล่มสลายถล่มทลาย เอเลี่ยนบุก หุ่นยนต์ครองเมือง แบบนิยายไซไฟคลาสสิกมากมายที่เราคุ้นเคย

เพราะเราไม่อยากถูกจำกัดอยู่แค่ในจิตใจของเราเอง เราจึงต้องอ่านเรื่องราวชีวิตของคนอื่น ✍️ 97,196 WORDS: ESSAYS – Emmanuel Carrère

Review

📖 97,196 WORDS: ESSAYS– Emmanuel Carrère / แปลโดย John Lambert อ่านจนจบในเวลาอันรวดเร็ว [คือเร็วแล้วเทียบกับเล่มอื่นที่ไม่ค่อยคืบ 555 กองๆ เอาไว้มากมาย] สารภาพว่าจำชื่อหนังสือและนักเขียนไม่ได้สักที จำผิดเป็น 97,316 ตลอด 😂 หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือรวมเรียงความ ทั้งหมด 20 บท = 97,196 คำพอ ซึ่งถือว่ามาในเวลาที่ถูกต้องกับชีวิต ช่วงชีวิตทศวรรษก่อนหน้านี้ เราอ่าน Non-Fiction เยอะมากๆ แต่ก็มักจะอ่านไม่จบ อ่านรีบๆ เพราะด้วยงานต้องทำงานเกี่ยวกับข้อมูล หรืออ่านแบบต้องเอาไปเขียน ฯลฯ บางทีก็อ่านแค่เอาเรื่อง ประเด็นน่าสนใจ อุ๊ย เรื่องนี้ใหม่ แต่มักไม่ได้รู้สึกประทับใจวิธีการเขียนอะไรขนาดนั้น ดีใจมากๆ ที่เจอ Non-Fiction ที่ไม่ได้แห้งเหือดไร้จิตใจ วิธีเขียนเขาแซ่บมากจนงง เขียนเหมือนไปสิงร่างคนอื่นแล้วกลับมานั่งเขียน พอมันดีมาก ก็คือมาสิงเราต่อขณะอ่าน เราไม่ได้รู้สึกถึง Intimacy จากการเขียนมานานเหลือเกิน เลยอ่านจบต้องเขียนถึงเลย ❤️ Carrère [อ่านว่าอะไร กลัวตัว R ภาษาฝรั่งเศสมาก ไม่มีปัญญาออกเสียง 😂 ] เป็นนักเขียน non fiction ฝรั่งเศส ไปสำรวจชีวิตคนอื่นเอามาเขียนเล่าต่อ เขาไม่ใช่สายสัมภาษณ์แนวถอดคำมาตรงๆ แต่เขานำมนุษย์ที่ไปพบเจอมาเรียบเรียงใหม่เป็น essay / prose ขนาดยาว บางอันก็ออกมาเป็นแนว […]

2010s: Looking back at this decade 🌸

Journal

2010  เรียนจบปี 1 ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองโง่มากๆ การเรียนออกแบบไม่เหมือนระบบการศึกษาที่เรียนมาตลอดชีวิต ท้าทายมากๆ เมื่อก่อนเรารู้สึกว่าแค่เรารู้ว่าระบบ/การสอบต้องการอะไร เราก็ทำไปตาม Requirement เพื่อให้ผ่านด่านไปเรื่อยๆ แต่ Creative & Design Process มันยาก ยุ่งเหยิงกว่านั้น ไปๆ มาๆ ฝึกงานที่ a day magazine ตอนนั้นเราเด็กมากจริงๆ พี่คนอื่นที่มาฝึกงานด้วยกันเหมือนผ่านชีวิตมหาลัยมาเยอะแล้ว ทำให้รู้สึกว่าตัวเองยังเด็กมาก ไม่รู้อะไรเลย และเราไม่ถนัดงานสัมภาษณ์เลย  แต่ทำให้ได้รู้ว่าเราชอบรีเสิชมากๆ 2011 เริ่มแยกเข้าภาคเรียนออกแบบอุตสาหกรรม  ซึ่งท้าทายเราที่เป็นมนุษย์สองมิติมากๆ ทำให้ได้เข้าใจความงาม ความยาก วิธีคิดที่หลากหลายมากๆ เช่นเซรามิกทำให้เราใจเย็น ทุกอย่างใหม่มากสำหรับเรา แต่สนุกมากเช่นกัน ตอนนั้นตบตีกับตัวเองมาก ตอนนั้นที่คณะความมินิมัลมันมาแรงมากส่วนตัวเราชอบของสีสันสดใส และไม่รู้ทิศทางว่าตัวเองอยากทำอะไร ไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อน จำได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เราได้คุยกันเรื่อง 112 คืออะไร 2012 อยู่หอเป็นปีแรก ตั้งแถวหัวลำโพง-เจริญกรุง เป็นย่านที่คึกคักดี แล้วก็พบว่าเราชอบอยู่บ้านมากๆ เลย และเราไม่เคยฟิตอินกับชีวิตในกรุงเทพเลย ปีนี้เรื่อง sharing economy กำลังมามากในเมืองนอก เราอยากออกจาก bubble นักออกแบบ เลยสมัคร couchsurfing ให้นักท่องเที่ยวมานอนที่หอเราได้เจอเพื่อนต่างชาติเยอะมาก ได้ฝึกภาษาอังกฤษ ได้สำรวจโลกแบบไม่ต้องไปเอง ได้หลายแนวคิดจากช่วงนั้นมาก เช่น สังคมนิยม อาสาสมัคร NGO หรือกระทั่งอาชีพที่สามารถทำให้เรา flexible เวลาได้ เช่นโปรแกรมเมอร์ โลกมันหลากหลายมากๆ เพื่อนบางคนก็ยังติดต่อกันอยู่ นี่คือประโยชน์ของเทคโนโลยีจริงๆ […]

2019: pretty good for me, pretty sad for society :(

Journal

ปีนี้เป็นปีที่สนุกและน่ายินดี เราไม่เหนื่อยเกินไป แต่ก็ได้เจอเพื่อนลดลงมากๆ เรื่องงานก็สนุกดี แต่เป็นปีที่แย่ของโลกมากๆ เรื่องที่ไม่น่ายินดีของปีนี้ Life เจอเพื่อนน้อยลงไปหน่อย ไม่ค่อย keep in touch กับใคร ขี้เกียจเจอเพื่อน ขี้เกียจพิมพ์ ขี้เกียจคุย ไม่ตอบแชทคนเยอะมาก ขออภัย เพื่อนหลายคนไปอยู่เมืองนอกก็ไม่ค่อยได้สอบถามข่าวคราว อยากเจอเป็นกายหยาบแล้วเรานั่งคุยกันมากกว่า พบว่าเราโตไม่พอสำหรับหลายเรื่องในชีวิต เวลาคนอื่นมีทุกข์ เราจัดการไม่ถูก มันซับซ้อนอ่อนไหวคลุมเครือเกินไป เลยเป็นที่พึ่งทางใจของใครไม่ได้เลย คนมีปัญหาเรื่องงานมาหาเราได้แต่ปัญหาทางใจเราคิดไม่ออก ฟังอย่างเดียว ไม่เคยเป็นผู้ใหญ่เรื่องนี้เลย ยังโง่เรื่องการจัดการเรื่องเงิน เก็บอย่างเดียวเดี๋ยวค่อยคิด ไม่ได้ลงทุน แต่สบายใจดี ระยะยาวอาจไม่ดี 55 เขียนหนังสือยังไม่เสร็จ แต่ก็มีความคืบหน้า เรื่องน่าเศร้าคือเหมือนมีเวลาว่างเยอะขึ้น พบว่าเป็นสิ่งที่ทำตามเดดไลน์ไม่ได้ ไม่เหมือนงานอื่นๆ  ติดตามการเมืองเรื่อยๆ สม่ำเสมอ แต่ไม่ค่อยแสดงความเห็น  รู้สึกว่าทุกคนพูดไปหมดแล้ว เราขี้เกียจไปไหมนะที่ไม่ส่งเสียง เป็นแรงสนับสนุนเบาๆ และช่วยเหลือ support รู้สึกผิดที่ไม่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมได้ไวกว่านี้ จนมาถึงจุดโลกวิกฤติจนน่ากลัว สะท้านความเชื่อและการมองโลกในแง่ดีของเราในหลายๆ เรื่องมาก เราคือผู้บริโภคที่ mindless ยังมีหลายเรื่องที่ซับซ้อน เรายังไม่เข้าใจ ไม่แน่ใจว่าควรสนับสนุน practice แบบไหนถึงจะเกิดผลที่สุด พยายามจะหาเวลาอ่านและเข้าใจตามไป นอนไม่หลับบ่อยกว่าปกติ นอนดึกบ่อยขึ้น กินดึกก็บ่อย กินแพงก็บ่อย ปีนี้เป็นปีที่โลกและสังคมแย่มากๆ มีแต่ความล้าหลัง ความไม่รู้ และดูสิ้นหวัง แต่ในขณะเดียวกัน ชีวิตเราก็ยังดำเนินไปอย่างสงบปกติ ราบเรียบ สันติ ยังไม่ล่มสลาย เพราะยังไม่ได้รับผลกระทบจากความพัง นั่นเพราะเรามีโอกาสที่ดี ได้รับโอกาส […]